OTOP

“งาดำปรุงสำเร็จ”

“งา” พืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆมากมาย โดยงา จะมี 2 แบบ คือ งาดำ และ งาขาว  น้ำมันงา สามารถนำมาใช้ปรุงอาหาร เพราะมีกลิ่นหอมและมีกรดไขมันที่มีประโยชน์ สารอาหารที่มีอยู่ในเมล็ดงาล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน ที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย  มีกรดไขมันอเมก้า 3และ6 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดคลอเลสเตอรอล มีกรดไขมันไลโนเลอิค ที่ช่วยทำให้ผมดกดำ บำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื้น  นอกจากนี้ งายังมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ โดยเฉพาะแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และยังมากด้วยวิตามินบี ชนิดต่างๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาท ช่วยทำให้นอนหลับ ร่างกายกระฉับกระเฉง พร้อมกันนั้นยังมีสารบำรุงประสาทด้วย และวิตามินอี เป็นตัวแอนติออกซิแดนท์ที่ช่วยต้านมะเร็ง

“งาดำปรุงสำเร็จ” ของกลุ่มสตรีบ้านทุ่งกล้วย เลขที่ 9 หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง จ.พะเยา เป็นการนำงาดำมาต่อยอดผลิตภัณฑ์ เป็น “งาดำพร้อมชงดื่ม” มีส่วนผสมของ งาดำคั่วบด ข้าวกล้อง ข้าวสีนิล ถั่วเหลือง ถั่วขาว ผสมผสานกันในปริมาณตามสูตรที่ทางกลุ่มคิดค้นขึ้น รสชาติกลมกล่อม หอมอร่อย เหมาะสำหรับผู้รักในการดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่ไม่มีน้ำตาล ท่านใดสนใจสามารถติดต่อได้ที่ คุณอัมพร อินสุยะ เป็นประธานกลุ่มฯ โทร.084-9115503 ครับ

 

“น้ำผึ้งโพรงธรรมชาติ”

“น้ำผึ้ง” จัดเป็นอาหารธรรมชาติ ช่วยเสริมสุขภาพ ที่รู้จักกันมาแต่โบราณ มีสรรพคุณทางยา และเป็นอาหารบำรุงร่างกาย ที่มีประโยชน์ เกิดจากการที่ผึ้งนำน้ำหวาน จากเกสรดอกไม้ ที่เป็นน้ำหวานธรรมชาติ มาเปลี่ยนแปลงตามกระบวนการธรรมชาติ กลายเป็นน้ำผึ้ง รสชาติที่ได้ขึ้นอยู่กับ วัตถุดิบหรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งนำมา น้ำผึ้งจากผึ้งป่าหรือผึ้งเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ จะมีความสมบูรณ์และมีแร่ธาตุอาหารที่มีประโยชน์มากมาย

วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเลี้ยงผึ้งธรรมชาติสามัคคี บ้านสันหมื่นแก้ว หมู่ที่ 10 ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา ได้รวมตัวกันคิดค้นวิธีการเลี้ยงผึ้ง โดยผสมผสานกับวิธีการแบบโบราณคือ การนำเอาโพรงไม้ไปวางไว้ในที่ที่มีผึ้งมาหาอาหาร เพื่อให้ผึ้งย้ายมาทำรังอยู่ในโพรงไม้ดังกล่าว เช่น ไปวางไว้ในป่า ในไร่ในสวนของสมาชิกในกลุ่มหรือญาติพี่น้องในชุมชน เมื่อสังเกตเห็นว่ามีผึ้งเข้ามาอยู่อาศัยแล้วจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ จะนำโพรงไม้รังผึ้งนั้นมาไว้ในโรงเรือนที่ทางกลุ่มฯสร้างขึ้น มีการจัดหาแหล่งน้ำและสร้างร่มเงาให้เย็นสบาย จากนั้นปล่อยให้ผึ้งหากินตามธรรมชาติ จนครบเวลาอันเหมาะสมจึงจำทำการเก็บรังผึ้งเพื่อบริโภคและจำหน่ายต่อไป

นับเป็นการรวมกลุ่มที่สร้างความสามัคคี มีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ต่อยอดให้ชุมชนเข้มแข็ง ท่านใดสนใจอุดหนุนผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งโพรงธรรมชาติ “ตราผึ้งทอง” ของกลุ่มเลี้ยงผึ้งธรรมชาติสามัคคี บ้านสันหมื่นแก้ว ติดต่อได้ที่ “พี่นพพร” หมายเลขโทรศัพท์ 084-6107608,082-8893106

“ข้าวกล้องกรอบ”

ข้าวกล้องกรอบ ตรา iRice  ผลิตจากข้าวลืมผัว ซึ่งเป็นข้าวไร่ ปลูกบนที่สูงจากระดับน้ำทะเล 400 เมตรขึ้นไป เปลือกหุ้มเมล็ดสีดำ มีคุณค่าสารอาหารสูง เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ “แอนโทไซยานีน” ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายช่วยป้องกันและยับยั้งการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลมะเร็ง,ช่วยลดความดันเสริม สร้างความแข็งแรงของหลอดเลือด เพิ่มไขมันดี(HDL) ช่วยลดไขมันเลว(LDL)และ มีโอเมก้าครบทั้ง 3 ตัว คือ โอเมก้า 3 , โอเมก้า 6, โอเมก้า 9  มีเส้นใยอาหารสูง ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดไม่อุดตัน  ไม่เป็นโรคหัวใจ  โรคพาร์กินสัน  ทานได้ทุกเพศ ทุกวัย พกพาสะดวก มี 4 รสชาติด้วยกันคือ รสสาหร่าย, รสชีส, รสต้มยำ, รสบาบีคิว

ข้าวกล้องกรอบ ตรา iRice ไดรับรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี2556 รางวัลชนะเลิศ  7 Innovation Awards 2016 ประเภทสังคม  ผลิตโดย หจก. ข้าวสร้างสุข บ้านเลขที่ 427 ม.11  บ้านต๊ำพระแล ต.บ้านต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา จากผู้ปลูกข้าว ต่อยอดสู่การแปรรูปและจัดจำหน่าย นวัตกรรมด้านข้าวแบบครบวงจร โดยใช้นวัตกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เหมาะสม  เพื่อพัฒนาครอบครัว ชุมชน และสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืนและมีความสุข

สนใจผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณอุไรวรรณ ภู่วัตร(เจี๊ยบ) โทร. 081-7407822 Line_ID : irice_jeab หรือที่ Facebook : https://www.facebook.com/Khaosangsuk

ข้าว 2 สีมีรส “คึฟู่”

วิสาหกิจชุมชนข้าว ๒ สีมีรส “คึฟู่”  ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์  “ฮองต๊อง”  เป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สร้างสรรค์ ให้วัตถุดิบในท้องถิ่นตัวเองให้มาเป็นนวัตกรรมอาหารเป็น ไรซ์เบอรี่ปรุงรสและข้าวก่ำปั้นงา  เป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารคนในท้องถิ่น สรรค์สร้างให้เป็นอาหารว่าง อาหารอิ่มท้อง ของฝากจากพะเยา ที่ร่วมสมัยเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน และเกิดรายได้ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ ” OTOP หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ “

ไรซ์เบอรี่ปรุงรสและข้าวก่ำปั้นงา วัตถุดิบหลัก  คือ  ข้าวและงา(ขี้ม่อน) ข้าวปลูกโดยคนในชุมชนลูกน้ำกว๊าน นำมาแปรรูปให้มีความแตกต่าง สร้างสรรค์น้ำปรุงคลุกในตัวข้าวให้มีรสชาติที่หอม มัน หวานน้อย ส่วนข้าวก่ำปั้นงา วัตถุดิบงา ใช้งาที่คนในชุมชนปลูกเองไร้สารเคมี เน้นข้าวก่ำคุณภาพ เป็นข้าวที่ดีต่อสุขภาพ มีคุณประโยชน์มากมาย ผลิตภัณฑ์ ไรซ์เบอรี่ปรุงรสและข้าวก่ำปั้นงา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ “แปลก…และ…แตกต่าง” ตั้งแต่รูปลักษณ์และรสชาติ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์  “รสอยาก” อยากให้ลิ้นทุกคนได้สัมผัสถึงความแตกต่าง “รสชาติ”

ไรซ์เบอรี่ปรุงรสและข้าวก่ำปั้นงา ทุกคนสามารถกินได้อย่างเพลิดเพลินไปกับการผสมผสานระหว่างผลไม้กับข้าวที่มีหลากหลายรสชาติ รสสตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ ลำไย สับปะรด   สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเสาวลักษณ์ กำธรสิริพีระ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ข้าว๒สีมีรส “คึฟู่” สินค้า OTOP ม.3 ต.แม่ใส อ.เมือง จ.พะเยา โทร.083-0451918

ข้าวหนุกงาอบกรอบ

ข้าวน้ำจำพะเยา เป็นเกษตรผสมผสานสู่การแปรรูปเชิงนวัตกรรม เน้นในเรื่องของข้าว โดยรวมกลุ่มเกษตรกร 50 ราย พื้นที่ประมาณ 300ไร่ เพื่อทำเกษตรปลอดภัย และได้รับการรับรอง จาก GAP อีกทั้ง ยังทำนาแปลงใหญ่ด้วย เราก็ได้ น้ำข้าวมาแปรรูป โดยการสี และแพ็คสุญญากาศขายแต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงคิดที่จะนำข้าวเหนียว กข6 มาเป็นส่วนประกอบหลักในการแปรรูปเป็นข้าวพอง กลายเป็นผลิตภัณฑ์ “ ข้าวหนุกงาอบกรอบ”

โดยเริ่มจาก การเอา ข้าวเหนียว กข6 ข้าวเหนียวดำ และจมูกข้าว ไปแช่รวมกัน หลังจากนั้นก็เอาไปนึ่ง และตาก จนแห้ง และนำไปทอด แล้ว นำไปคลุกกับน้ำปรุงสูตรเฉพาะ แล้วนำมาขึ้นรูป และเพิ่ม รสชาดด้วยเมล็ดมะม่วงหิมพานห์ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง งาขี้ม่อน

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ คุณธัญลักษณ์ ปิงเมือง กลุ่มข้าวน้ำจำ(โรงสีข้าว) ต.จำป่าหวาย อ.เมือง จ.พะเยา โทรศัพท์ 090-9732379 Facebook: ข้าวน้ำจำพะเยา

ครีมมะขามน้ำผึ้ง-แม่แสงดี

     ครีมมะขาม มีกรดผลไม้จากธรรมชาติ (AHA) ซึ่งจะช่วยลดการเกิดสิว, ฝ้า, จุดด่างดำ ลดการเกิดริ้วรอย ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น ทำให้ผิวหนังที่เสื่อมสภาพแล้วหลุดออกไป ช่วยให้ผิวหน้าและผิวกายสดใส เนียนนุ่มเป็นธรรมชาติ ปราศจากกลิ่นตัว

การใช้งานครีมมะขามโดยทั่วไปไม่ยุ่งยาก สำหรับผิวหน้าเพียงล้างหน้าด้วยสบู่หรือโฟมล้างหน้าก่อนใช้ครีมมะขาม ผสมน้ำเล็กน้อยแล้วขัดนวดเบาๆ จนทั่วใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 2-5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สำหรับผิวกายหลังจากอาบน้ำด้วยสบู่หรือครีมอาบน้ำ ใช้ครีมมะขามขัดผิวทั่วร่างกาย บริเวณรักแร้ ขาหนีบ ส้นเท้า ฟอกทิ้งไว้ประมาณ 10-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

“ครีมมะขามขัดผิวผสมน้ำผึ้ง 25 % ตราแม่แสงดี” มีส่วนประกอบสำคัญ ได้แก่ มะขาม, น้ำผึ้ง, ว่านหางจระเข้, ขมิ้น, นมสด, น้ำปูนใส สำหรับขัดผิวหน้าและผิวกาย ช่วยให้ผิวเนียนใส ดูสดชื่น เปล่งปลั่ง และสุขภาพผิวดี ด้วยคุณประโยชน์ของมะขามและน้ำผึ้ง วิธีใช้เพียงผสมน้ำเล็กน้อยแล้วขัดผิวหน้าหรือผิวกายได้ตามต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 5-15 นาที แล้วล้างออก ควรใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง

“ครีมมะขามขัดผิวผสมน้ำผึ้ง 25 % ตราแม่แสงดี” ผลิตโดยกลุ่มแม่บ้านแปรรูปครีมมะขาม บ.ใหม่ หมู่ที่ 2 ต.หนองหล่ม อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ OTOP ชั้นแนวหน้ามาตรฐานระดับ 5 ดาว ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ครีมมะขามและสมุนไพรต่างๆ ออกสู่ตลาด สินค้า OTOP มาโดยตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา เริ่มต้นจากการเคี่ยวมะขามด้วยมือ มาจนถึงปัจจุบันที่ใช้เครื่องจักรกลทันสมัย มีโรงงานผลิตมาตรฐาน สามารถผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ครีมมะขามไปทั่วประเทศ สร้างภาพลักษณ์ชื่อเสียงที่ดีให้จังหวัดพะเยา สนใจผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อได้ที่ :แม่แสงดี เผ่ากันทะ โทรศัพท์ : 086-1792795, 054 457138

“อ้ายเก๊า”หมี่กรอบลำไย

     “อ้ายเก๊า”หมี่กรอบลำไย หมี่กรอบจ้าวแรกของโลกที่มีเนื้อลำไยผสมอยู่ในหมี่กรอบ มีรสหอมอ่อนๆ ของลำไย ประกอบกับความกรอบของหมี่ รสเปรี้ยวจากมะนาวสดๆ ส่วนผสมทุกอย่างมาจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดความคิดสร้างสรรค์ของ “นายกษิดิศ เกษตรการุณย์” ชื่อเล่น โอห์ม ชายหนุ่มวิศวกรเชื้อสายไทลื้อ จบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ที่หลังจากคุณพ่อได้เสียชีวิตขณะที่กำลังศึกษาระดับปริญญาโท กลับบ้านเกิดมาผลิตหมี่กรอบลำไย จำหน่ายจนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่าเงินเดือนประจำ สามารถส่งน้องสาวเรียนต่อคณะพยาบาลศาสตร์จนสำเร็จการศึกษา สามารถทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวแทนคุณพ่อที่เสียไปอย่างเต็มภาคภูมิ

     เริ่มต้นจากการที่กลับมาอยู่บ้าน กลายเป็นคนว่างงานอยู่ประมาณ 1 ปี ต่อมาคิดอยากทำหมี่กรอบลำไย เพราะลำไยเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของ อ.เชียงคำ และชอบทานประจำ จึงลองทำขายครั้งแรก ลองวางขายในงานไทลื้อ ในปี 2560 ครั้งนั้นขายได้เพียง 67 กล่อง  ครั้งแรกที่ลองทำหมี่กรอบลำไย เกิดปัญหาที่ความกรอบของหมี่อยู่ไม่นาน ต่อมาได้ศึกษาทดลองปรับปรุงสูตรอย่างต่อเนื่อง ศึกษาค้นคว้าเองจากโซเชียลมีเดี่ย และสอบถามขอความรู้จากผู้รู้ จนสามารถปรับปรุงและประยุกต์มาเป็นสูตรน้ำยำหมี่กรอบของตัวเองได้ และสร้างความแปลกแตกต่างเป็นอัตลักษณ์ของตนเอง ด้วยการใส่เนื้อลำไยอบแห้งลงไปเนื้อหมี่กรอบ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวไม่เหมือนใคราเป็นหมี่กรอบจ้าวแรกของโลกที่มีเนื้อลำไยแทรกอยู่ในหมี่ โดยเฉพาะลำไยที่เป็นของดีเมืองเชียงคำ ไม่เพียงการขายหมี่กรอบลำไยเท่านั้น แต่คือการขายวัฒนธรรม ภูมิปัญญาของคนเชียงคำ ที่ปลูกและแปรรูปผลผลิตลำไยสร้างมูลค่าด้านเศรษฐกิจได้ตลอดมา

     ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้จากการผลิตหมี่กรอบลำไย ส่งขายให้ตัวแทนจำหน่ายตามร้านค้าในพื้นที่จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย และขายทางออนไลน์ ท่านใดสนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ นายกษิดิศ เกษตรการุณย์ วิสาหกิจชุมชนหมี่กรอบลำไยชุมชนดอนไชย เลขที่ 111 หมู่ 5 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา 56110 โทรศัพท์. 093-1694645 หรือทาง Facebook Page : อ้ายเก๊า หมี่กรอบลำไย ของฝากจากเชียงคำ

น้ำมัลเบอร์รี่พร้อมดื่ม ตรา “เลอ กอแล”

     มัลเบอร์รี่ หรือลูกหม่อน ก็เป็นหนึ่งในผลไม้ที่นิยมปลูกมากขึ้นในทั่วทุกภาคและยังเป็นผลไม้ที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ โดยมัลเบอรี่เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสมอง ป้องกันโรคมะเร็ง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง บำรุงสายตา ช่วยในการล้างพิษ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย เป็นต้น

      “สวนมัลเบอรี่ เลอ กองแล” ของคุณอัญชลี ปัญญากวาว ซึ่งรับราชการตำแหน่งเกษตรอำเภอ ประจำอำเภอจุน จ.พะเยา ตั้งอยู่บ้านเลขที่120 หมู่ 6 ตำบล ดงสุวรรณ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ได้ใช้พื้นที่ว่างเปล่าในบ้านของตนเองปลูกหม่อนและพืชผักสวนครัวอีกหลายชนิดโดยชักชวนกลุ่มแม่บ้านในหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วม อีกทั้งเป็นการส่งเสริมสร้างงาน สร้างรายได้ และอยู่แบบพอเพียง

      โดยการเริ่มปลูกต้นหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ หลายสายพันธุ์ ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนพืชผักอื่นๆ จนได้ผลผลิตออกจำหน่ายทุกวันบริเวณหน้าบ้าน สร้างรายได้ให้กับแม่บ้านและชุมชน โดยจะเน้นปลูกหม่อน หรือ มัลเบอร์รี่ โดยจะเก็บจำหน่ายแบบสดๆ และนำมาแปรรูปเป็น “น้ำมัลเบอร์รี่พร้อมดื่ม” ท่านใดสนใจติดต่อได้ที่ โทร.080-5995919 หรือ Facebook : มัลเบอร์รี่ เลอ กองแล พะเยา

 

“กาละแมน้ำอ้อย”

     “น้ำอ้อย” คือ น้ำตาลที่ได้จากการนำอ้อยสดมาหีบคั้นน้ำ นำมาตั้งไฟต้มและเคี่ยวจนเหนียวข้นจนได้ที่ จากนั้น เทหรือหยอดลงในแม่พิมพ์ เพื่อทำเป็นก้อน

     กลุ่มวิสาหกิจชุมชน “กลุ่มท็อฟฟี่น้ำอ้อย” โดยนางเปลี่ยน รวมสุข และเพื่อนแม่บ้านในหมู่บ้านรวมตัวกันจัดตั้งขึ้น ในปี พ.ศ. 2555 แต่ผลิตภัณฑ์ท็อฟฟี่น้ำอ้อยไม่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคมากนัก กลุ่มจึงคิดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ “น้ำอ้อยสบบง” เพราะน้ำอ้อยสบบงเป็นน้ำอ้อยคุณภาพของจังหวัดพะเยา มีแหล่งปลูกที่เดียวคือ ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา มาเป็นส่วนผสมของขนม จนในที่สุดได้สรุปออกมาเป็น “กามะแลน้ำอ้อย หนึ่งเดียวในพะเยา” คือการนำน้ำอ้อยมาเป็นส่วนผสมให้ความหวานในการทำกาละแม แทนการใช้น้ำตาลทราย

      นอกจากนี้ “กาละแมน้ำอ้อย” ยังได้เพิ่มสูตรจากน้ำใบเตย มาเป็นน้ำดอกอัญชัญ ทุกอย่างส่วนผสมทั้งหมดล้วนมาจากวัสดุในท้องถิ่นทั้งมะพร้าว ใบเตย ดอกอัญชัญ มีทุกครัวเรือน ชุมชน ต.สบบง 3 หมู่บ้าน มีการทำน้ำอ้อยทุกหลัง เพราะต่างทำสวนอ้อยขายทุกปี ใบตองที่ห่อกาละแมก็หาได้ในหมู่บ้าน มะพร้าวขูดเองและคั้นเองด้วยเครื่องไม่ต้องซื้อกะทิสด ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ถึง 2 เท่าตัว การทำกาละแมกลุ่มจะกวนทุกๆ 3 วัน ส่งไปตัวแทนจำหน่ายที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง และตามคำสั่งซื้อ จากพื้นที่ต่างๆของจังหวัดพะเยา

สนใจผลิตภัณฑ์ “กาละแมน้ำอ้อย” ติดต่อได้ที่ นางเปลี่ยน รวมสุข บ้านเลขที่ 28 หมู่ 2 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา 56110 โทรศัพท์ 089-9542497

“ก่ำพะเยา” ข้าวก่ำอินทรีย์

     ข้าวก่ำ เป็นข้าวที่คนทางภาคเหนือนิยมปลูก เพื่อใช้รับประทาน จากการค้นคว้าข้อมูลทางวิชาการ พบว่า ข้าวก่ำ มีสาร Anthocyanin (แอนโทไซยานิน) ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ช่วยการหมุนเวียนของกระแสโลหิต ชะลอการเสื่อมของเซลล์ร่างกาย โดยเฉพาะสารแอนโทไซยานิน เป็นชนิดที่พบในข้าวสีม่วงกลุ่มอินดิก้า (ซึ่งรวมข้าวก่ำไทย) คือ cyanindin-3 glucoside ได้พิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอด และมีสารแกมมาโอไรซ่านอล ซึ่งนอกจากจะมีคุณสมบัติต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นเช่นเดียวกันแล้ว ยังสามารถลดคลอเรสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และเพิ่มระดับของ HDL ในเลือด และยังมีผลต่อการทำงานของต่อมใต้สมอง ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ลดน้ำตาลในเลือด เพิ่มระดับของฮอร์โมนอินซูลินของคนเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ต้านการหืนของไขมันในรำข้าวและนมผงไขมันเต็ม

          ในปี 2550 ร.ต.ต.พิทักษ์ชน และ คุณบุญรอง ปิยวรรณหงส์ สองพี่น้อง ได้นำพันธุ์ข้าวก่ำพะเยามาปลูกจำนวน 2 ปี๊บ ได้ผลผลิตข้าวทั้งหมด 145 ปี๊บ ภายใน 1 ปี จากนั้นได้นำข้าวก่ำพะเยาไปสีที่โรงสีของกลุ่มผู้สูงอายุวัดบ้านร่องแมด ตำบลทุ่งรวงทอง อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ก่อนนำข้าวที่สีได้ไปขายที่ตลาดสดบ้านสักลอใหม่ และหมู่บ้านใกล้เคียง ปรากฏว่าขายดี ผู้สูงอายุซื้อไปรับประทานจำนวนมาก โดยราคาขายขณะนั้นอยู่ที่ 20 บาท ต่อลิตร

เริ่มแรกปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือน แต่เห็นว่าข้าวก่ำพะเยามีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย จึงคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวก่ำพะเยา นำไปปลูกบนพื้นที่ 30 ไร่ โดยปลูกเป็นข้าวอินทรีย์ทั้งหมด และเริ่มแนะนำให้ชาวบ้านรวมกลุ่มเพื่อปลูกพันธุ์ข้าวก่ำพะเยาในปี 2552 ในแบบของข้าวอินทรีย์ มีสมาชิกทั้งหมด 20 ราย ปลูกบนพื้นที่ จำนวน 250 ไร่ ใช้ชื่อกลุ่มบ้านชาวนาข้าวก่ำพะเยา จากนั้นได้นำข้อมูลข้าวก่ำพะเยาไปเผยแพร่ลงผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ มูลนิธิกรีนพีซได้ขอยืมพันธุ์ข้าวก่ำพะเยาไปสร้างเป็นศิลปะบนนาข้าวที่จังหวัดราชบุรี ทั้งยังมีการเผยแพร่รูปภาพไปทั่วโลก ส่งผลให้ข้าวก่ำพะเยาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

สนใจผลิตภัณฑ์ “ก่ำพะเยา” ข้าวก่ำอินทรีย์ ของกลุ่มบ้านชาวนาข้าวก่ำพะเยา ติดต่อสอบถามได้ที่ อาจารย์บุญรอง ปิยวรรณหงส์ ประธานกลุ่มฯ เลขที่ 59 หมู่ 8 ต. หงส์หิน อ.จุน จ. พะเยา 56150 โทร. 054 -896062, 086- 1157131